สศท.10 เคาะตัวเลขสับปะรดปัตตาเวียภาคตะวันตก ปี 66 ผลผลิตรวม 8.5 แสนตัน

ข่าวที่ 23/2566 วันที่ 28 กุมภาพันธ์  2566
สศท.10 เคาะตัวเลขสับปะรดปัตตาเวียภาคตะวันตก ปี 66 ผลผลิตรวม 8.5 แสนตัน
            นางสาวศิริพร จูประจักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ราชบุรี (สศท.10) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ การผลิตสับปะรดปัตตาเวียปี 2566 ภาคตะวันตก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของประเทศ ได้แก่ ประจวบคีรีขันธ์ ราชบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 (สศท.10) และผลการประชุมคาดการณ์ปริมาณการผลิตร่วมกับหน่วยงาน ผู้แทนเกษตรกร ในพื้นที่ ทั้ง 4 จังหวัด และผู้ประกอบการโรงงานแปรรูป (ข้อมูล ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566) คาดว่า มีเนื้อที่เก็บเกี่ยวทั้ง 4 จังหวัดรวม 231,988 ไร่ ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 248,370 ไร่ (ลดลง 16,382 ไร่ หรือร้อยละ 7) เนื่องจากราคาปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาที่เกษตรกรขายได้ในปี 2564 และ 2565 ไม่จูงใจให้เกษตรกรขยายเนื้อที่ปลูก เกษตรกรบางส่วนจึงปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นที่ให้ราคาดีกว่า และต้นทุนต่ำกว่า เช่น มันสำปะหลังโรงงาน อ้อยโรงงาน และปล่อยว่างบางส่วน ด้านผลผลิตรวมทั้ง 4 จังหวัด มีจำนวน 851,652 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่มีจำนวน 915,377 ตัน (ลดลง 63,725 ตัน หรือร้อยละ 7) ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ 3,671 กิโลกรัม (ลดลง 15 กิโลกรัม หรือร้อยละ 0.41) ลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในช่วงต้นปีมีฝนทิ้งช่วง และสภาพอากาศแปรปรวนช่วงผลสับปะรดกำลังเจริญเติบโต ส่งผลให้ผลสับปะรดบางส่วนไม่สมบูรณ์
            หากพิจารณาแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า ประจวบคีรีขันธ์ มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 154,715 ไร่ (ลดลง 12,864 ไร่ หรือร้อยละ 7.68) ผลผลิตรวม 618,126 ตัน (ลดลง 50,077 ตัน หรือร้อยละ 7.49) ผลผลิตเฉลี่ย 3,995 กิโลกรัมต่อไร่ (เพิ่มขึ้น 8 กิโลกรัม หรือร้อยละ 0.20) ราชบุรี มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 38,262 ไร่ (ลดลง 843 ไร่ หรือร้อยละ 2.16) ผลผลิตรวม 115,564 ตัน (ลดลง 6,891 ตัน หรือร้อยละ 5.63) ผลผลิตเฉลี่ย 3,020 กิโลกรัมต่อไร่ (ลดลง 111 กิโลกรัม หรือร้อยละ 3.55) เพชรบุรี มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 26,622 ไร่ (ลดลง 933 ไร่ หรือร้อยละ 3.39) ผลผลิตรวม 80,476 ตัน (ลดลง 1956 ตัน หรือร้อยละ 2.37) ผลผลิตเฉลี่ย 3,023 กิโลกรัมต่อไร่(เพิ่มขึ้น 31 กิโลกรัม หรือร้อยละ 1.04) และกาญจนบุรี มีเนื้อที่เก็บเกี่ยว 12,389 ไร่ (ลดลง 1,742 ไร่ หรือร้อยละ 12.33) ผลผลิตรวม 37,486 ตัน (ลดลง 4,801 ตัน หรือร้อยละ 11.35) ผลผลิตเฉลี่ย 3,026 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มขึ้น 34 กิโลกรัม หรือร้อยละ 1.14) ผลผลิตสับปะรดปัตตาเวียสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี โดยผลผลิตเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ 2566 มีผลผลิตเก็บเกี่ยวออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 140,789 ตัน (ร้อยละ 16.53) โดยจะออกมากสุดช่วงเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน ประมาณ 202,069 ตัน (ร้อยละ 23.72) และจะออกสู่ตลาดอีกในเดือนพฤศจิกายน ประมาณ 98,879 ตัน (ร้อยละ 11.61)
สถานการณ์ด้านราคาสับปะรดปัตตาเวียภาคตะวันตก ราคาเฉลี่ยที่เกษตรกรขายได้ ณ ไร่นา (ข้อมูลวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566) ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เกษตรกรขายผลผลิตเข้าโรงงานแปรรูป ราคาเฉลี่ยสับปะรดผลขนาดใหญ่ กิโลกรัมละ 7.37 บาท สับปะรดผลขนาดเล็ก กิโลกรัมละ 2.77 บาท และอีกร้อยละ 10 จำหน่วยเป็นสับปะรดบริโภคผลสด (ขายแบบคละ) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 11.50 บาท
             ทั้งนี้ สำหรับแนวทางการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดปัตตาเวีย ได้ขอความร่วมมือโรงงานแปรรูปสับปะรดในพื้นที่ รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ก่อน และขอให้ปรับแผนกำลังการผลิตในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากและกระจุกตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม –มิถุนายนนี้ สำหรับมาตรการในระยะยาวได้ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดและโรงงานแปรรูปวางแผนการผลิตและการตลาดร่วมกัน โดยการวางแผนการบังคับผลผลิตสับปะรดเพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของผลผลิต ซึ่งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพด้านราคาในระยะยาว เกษตรกรอาจปรับแผนการผลิตเป็นสับปะรดบริโภคผลสดแทนบางส่วน เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดได้อีกทางหนึ่ง หากท่านใดสนใจข้อมูลสถานการณ์การผลิตสับปะรดปัตตาเวียปี 2566 สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.10 โทร 0 3233 7954 หรือ อีเมล zone10@oae.go.th
***********************************
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์
ข้อมูล : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ราชบุรี